ทำอย่างไรให้โค้ชรู้จักเราและเลือกเราเข้าไปเล่นในทีม

เราคงทราบกันดีว่า ในปีๆหนึ่งมีนักกีฬาเยาวชนที่ต้องการได้รับทุนการศึกษาด้านกีฬาและต้องการเล่นกีฬาในระดับมหาวิทยาลัยเป็นจำนวนมาก แล้วเราจะทำอย่างไรดีให้โค้ชรู้จักเรา ให้โค้ชได้เห็นว่าเรามีความสามารถเพียงพอที่จะเสริมศักยภาพให้ทีมของเค้าแข็งแกร่งขึ้น พี่มีคำแนะนำที่ทำตามได้ไม่ยาก มาฝากค่ะ

1.       อย่ารอให้ถูกค้นพบ เราต้องเป็นฝ่ายแนะนำตัวเอง

ในอดีตนักกีฬาจะหวังว่าการไปเล่นทัวร์นาเม้นต์ระหว่างปิดภาคเรียนฤดูร้อนที่ประเทศอเมริกา (ประมาณเดือนมิถุนายน - สิงหาคม) จะทำให้โค้ชติดต่อเราเพื่อให้เราเข้าไปร่วมทีม การคิดอย่างนี้ก็ไม่ผิดแต่ก็ไม่ถูกสักทีเดียวนัก เป็นความจริงค่ะที่โค้ชจะเดินทางไปดูการแข่งขันตามรายการแข่งขันใหญ่ๆ ที่มีนักกีฬาฝืมือดีเข้าร่วมแข่งขัน แต่สิ่งที่เราไม่ค่อยทราบก็คือ โค้ชส่วนมากที่เดินทางมาชมรายการแข่งขัน ต่างมีเป้าหมายนักกีฬาที่เค้าต้องการมาดูอยู่แล้ว โค้ชจะให้ความสนใจนักกีฬาคนอื่นๆ หากเค้ามีฟอร์มการเล่นที่ดีจนน่าจับตามองเท่านั้น ดังนั้นการที่โค้ชจะรู้จักเราได้ นั่นคือเราจำเป็นต้องติดต่อโค้ชไปก่อน เพื่อให้โค้ชรู้ระดับการเล่นของเรา และคอยแจ้งโค้ชหากว่า เรามีโอกาสได้ไปเข้าร่วมแข่งขันรายการไหน หากโค้ชคิดว่าเราน่าสนใจ โค้ชจะเดินทางมาดูเรา และแน่นอนว่าอาจจะไม่ได้ดูแค่เราคนเดียว อาจจะมีนักกีฬาอื่นๆ ที่โค้ชให้ความสนใจอยู่ด้วย ดังนั้น เราควรจะตั้งใจทำการแข่งขันให้ดีที่สุด

2.       อย่าทำดีเฉพาะในสนาม นอกสนามก็สำคัญเช่นกัน

นักกีฬาบางคนเมื่อรู้ว่ามีโค้ชมาดู จะพยายามอย่างเต็มที่ ทำดีที่สุดเฉพาะในสนามเพื่อให้ผลการแข่งขันออกมาอย่างดีที่สุด แต่ในความเป็นจริงแล้ว โค้ชทีมกีฬามหาวิทยาลัย จะคอยสังเกตพฤติกรรมของนักกีฬาทุกอย่าง ตั้งแต่เริ่มการวอร์มอัพ การเตรียมความพร้อมก่อนแข่งขัน มนุษยสัมพันธ์กับผู้อื่น การควบคุมอารมณ์เมื่อเกิดความผิดพลาด เพราะการแข่งขันกีฬาในระดับมหาวิทยาลัย นักกีฬาจะซ้อมกันเป็นทีม และแข่งเป็นทีม ถึงแม้ว่าจะเป็นกีฬาประเภทที่เล่นคนเดียว เช่น กอล์ฟ ดังนั้น สิ่งที่โค้ชต้องการจากนักกีฬา นอกจากผลงานการแข่งขันที่ดีแล้ว นักกีฬายังจะต้องมีวินัย และสามารถอยู่ร่วมก้บผู้อื่น และทำงานเป็นทีมได้เป็นอย่างดี

3.       แสดงให้เห็นถึงความพยายาม

นักกีฬาจะที่อยากได้รับเลือกในทีม ควรจะติดต่อโค้ชและแนะนำตัวไปก่อน นักกีฬาอาจจะเริ่มด้วยส่งอีเมล์แนะนำตัว และแสดงความสนใจที่จะเข้าร่วมทีม พร้อมทั้งส่งเรซูเม่ผลการแข่งขันให้โค้ชพิจารณา โดยทั้งนี้ ตามกฏของ NCAA สำหรับ DI และ DII โค้ชจะสามารถส่งรายละเอียดเกี่ยวกับโปรแกรมให้นักเรียนได้ตั้งแต่เกรด 7  หรือ ม.1 แต่ไม่สามารถโทรศัพท์คุยกับนักเรียนนักกีฬาได้หากนักเรียนนักกีฬาเรียนอยู่ในระดับชั้นที่ต่ำกว่าเกรด 11   หรือ ม. 5 นักกีฬาที่มีความมุ่งมั่นจะเริ่มทำการติดต่อโค้ชตั้งแต่เนิ่นๆ และคอยอัพเดทผลการแข่งขันให้โค้ชทราบอยู่เสมอ หากโค้ชสนใจ โค้ชจะสามารถทำการพูดคุยกับเราได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ของปีที่เราเริ่มเรียนเกรด 11 หากเราได้ทำการติดต่อโค้ชอย่างสม่ำเสมอ และผลการแข่งขันของเราอยู่ในระดับที่โค้ชกำลังมองหา โค้ชจะมองเห็นความกระตือรือล้นและความพยายามของเรา ซึ่งนั่นก็เป็น 1 ในคุณสมบัติที่โค้ชมองหา

4.       ระวังสิ่งที่โพสต์ลงใน Social Media

นักเรียนนักกีฬาบางคนไม่ระวังสิ่งที่ตัวเองโพสต์ลงไปใน Social Media โปรดอย่าลืมว่า โค้ชหรือใครๆ สามารถค้นหาเราได้โดยง่ายด้วยการใช้กูเกิ้ล หรือ โปรแกรมค้นหาต่างๆ หากเราโพสต์สิ่งที่ไม่เหมาะสมลงไปในโพรไฟล์ของเรา ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ก่อนที่โค้ชจะเลือกใครสักคนเข้าร่วมทีม เค้าย่อมจะต้องเลือกคนที่ดีที่สุด หากเรามีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ย่อมจะส่งผลเสียต่อการถูกคัดเลือกเข้าร่วมทีมอย่างแน่นอน

5.       การสื่อสารเป็นสิ่งที่สำคัญมาก

เมื่อโค้ชสนใจเราในระดับหนึ่งแล้ว เป็นปกติที่โค้ชจะต้องอยากพูดคุยกับเราเพื่อดูทัศนคติว่าตรงกันหรือไม่ โดยเฉพาะเราเป็นชาวต่างชาติ โค้ชยิ่งต้องอยากทราบว่า เรามีทักษะภาษาอังกฤษพอที่จะสื่อสารกับโค้ช และเพื่อนร่วมทีมได้หรือไม่ ดังนั้น หากน้องๆ อยากทำให้โค้ชประทับใจ น้องๆ ควรจะมีทักษะภาษาอังกฤษเพียงพอ สำหรับการสื่อสารได้

 

พี่หวังว่า น้องๆ คงจะนำไปปรับใช้ในการเตรียมตัวให้ได้รับคัดเลือกให้เข้าไปเล่นในทีมระดับมหาวิทยาลัยต่อไปนะคะ หากน้องๆ มีข้อสงสัยใดๆ เพิ่มเติม น้องๆ สามารถทิ้งคำถามไว้ได้ ในส่วนของ Contact us แล้วพี่จะมาตอบค่ะ

Visitors: 37,719